เพื่อนๆที่ติดตามดิฉันมานาน คงสัมผัสได้จากงานเขียนของดิฉันหลายๆงาน ว่า โดยส่วนตัวนั้น ดิฉันไม่ชอบเรื่องการแข่งขันเอามากๆ ดิฉันไม่ค่อยชอบ เรื่องการแย่งชิง การเอาเปรียบต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ การแข่งขันในแต่ละครั้ง มีผู้ชนะเพียงคนเดียว แต่คนจำนวนมากนั้น คือ ผู้สูญเสีย เพราะการแข่งขัน ส่วนมาก มันคือ Zero Sum
ขึ้นชื่อว่า “เกม” ย่อมต้องมีผู้แพ้ หรือ ผู้ชนะ ซึ่งในชีวิตของคนเรานั้น หลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ได้ยาก และเด็กๆสมัยนี้ ส่วนมากไม่ค่อยยอมรับความพ่ายแพ้ อาจจะเป็นเพราะครอบครัวสมัยนี้ มีลูกน้อย ดังนั้น เด็กๆ จึงไม่ชินกับการที่จะเป็นผู้แพ้ เพราะผู้ใหญ่ที่เล่นด้วยที่บ้าน มักจะยอมเด็ก และเด็กๆ มักมีอภิสิทธิ์ในเรื่องต่างๆเสมอ เด็กๆจึงเคยชินกับการได้ ได้เปรียบ ได้ก่อน และไม่ชินกับการเป็นผู้แพ้ ดิฉันเองสังเกตเห็นว่า เด็กสมัยนี้ แพ้ไม่เป็นเอาเลย เวลาเล่นแพ้ ก็หน้างอ เผลอๆ หลายๆคนอาละวาด ทำลายข้าวของ ร้องไห้ โวยวาย ทุกครั้งที่แพ้ ซึ่งลูกๆของดิฉันเองก็เป็นค่ะ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ที่ต้องฝึกลูกให้แพ้ให้เป็น และไม่กลัวการแข่งขัน ยิ่งกลัวการแข่งขัน เราก็ยิ่งต้องพาลูกเข้าสู่สนามแข่ง เพราะในสนามแข่ง ลูกจะได้วัดความสามารถของตัวเองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เขาจะเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง และ เรียนรู้จากความเจ็บปวด ที่เสียหน้า และ ต้องให้กำลังใจตัวเองในการกลับมาสู้อีกครั้ง มีเกมหลายๆเกม ที่ดิฉันเอง ใช้ฝึกลูกให้รู้จักความพ่ายแพ้ค่ะ เช่นการเล่นหมากล้อม การเล่นเกมเศรษฐี หรือ หากมีการแข่งขันอะไร ที่ลูกๆอยากลอง และพอมีทักษะ ความสามารถอยู่บ้าง ดิฉันเองก็จะไม่ลังเล ในการส่งลูกๆเข้าร่วมสนุก แต่เราก็จะคุยกับลูกทุกครั้งว่า ให้ลองดู สนุกๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้อย่างนึง เพื่อค้นหาความถนัดของลูกเอง ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังแต่ละเรื่องนะคะ ว่าแต่ละเรื่อง แต่ละกิจกรรม ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง