สมองเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะสมองทำหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย ทั้งยังช่วยในการเรียนรู้ สร้างความคิด และกระบวนการอื่นๆ อีกมากมาย การพัฒนาสมองของเด็กมีมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และยังคงพัฒนาเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งอายุได้ประมาณ 7 ขวบ ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเรียนรู้การพัฒนาสมองเด็กให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตได้อย่างสมวัย การพัฒนาสมองเด็กนั้นไม่ได้หมายถึงการพัฒนาความฉลาดทางสติปัญญา หรือ ‘IQ’ เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพัฒนาความฉลาดทางด้านอารมณ์ หรือ ‘EQ’ รวมไปถึงทักษะในการใช้กล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสอื่นๆ อีกด้วย ถึงแม้หนังสือพัฒนาสมองอาจเป็นคู่มือที่ดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ แต่ความจริงแล้วยังมีกิจกรรมพัฒนาสมองมากมายที่จะช่วยลูกน้อยพร้อมให้ความสนุกสนานไปในเวลาเดียวกัน
กิจกรรมพัฒนาสมองเด็ก
มีกิจกรรมมากมายที่ช่วยพัฒนาสมองลูกไปพร้อมๆ กับความสนุกสนาน อย่างไรก็ดีคุณตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ากิจกรรมนั้นๆ มีความปลอดภัยเพียงพอสำหรับเด็ก และลูกน้อยจะสนใจในการทำกิจกรรมที่คุณแนะนำ การบังคับฝืนใจให้ลูกทำในสิ่งที่ไม่ชอบ อาจยิ่งทำให้ลูกต่อต้าน งอแง และหาทางหลีกเลี่ยงกิจกรรมการทำกิจกรรมนั้นๆ โดยสิ้นเชิง
ปลูกฝังให้ลูกน้อยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก โดยคุณพ่อและคุณแม่อาจเริ่มจากหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบใหญ่ๆ และค่อยเปลี่ยนเป็นหนังสือสั้นๆ ที่อ่านง่ายเมื่อลูกโตมากขึ้น สมองจะได้ฝึกทักษะทางการฟัง ทักษะทางด้านภาษา และการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน
สนับสนุนลูกน้อยให้หัดเล่นดนตรี เมื่อลูกยังเล็ก คุณพ่อและคุณแม่ควรให้ลูกเล่นของเล่นที่มีเส ียง เช่น กระดิ่ง ไซโลโฟนของเล่น เป็นต้น นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่อาจหาเพลงพัฒนาสมองเด็ก ซึ่งเป็นเพลงง่ายๆ ที่ลูกร้องหรือเต้นตามได้ เพื่อให้สมองได้พัฒนาทักษะการฟัง ทั้งยังได้พัฒนาทักษะกล้ามเนื้อจากการเคลื่อนไหวอีกด้วย เมื่อลูกน้อยโตขึ้น คุณพ่อและคุณแม่สามารถให้ลูกหัดเล่นเครื่องดนตรีที่ลูกสนใจ เช่น เปียโน กีต้าร์ หรือเครื่องดนตรีไทยอย่างขิมหรือระนาด เป็นต้น
เล่นเกมส์ฝึกสมอง ไม่ว่าจะเป็นจิ๊กซอว์ เกมส์ไพ่สำหรับหัดนับเลข หมากกระดานอย่างหมากรุก หรือบอร์ดเกมส์อย่างครอสเวิร์ด เกมส์ฝึกสมองเด็กเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยต้องใช้ความคิดในการแก้ปัญหา ทั้งยังเป็นการพัฒนาทักษะในการใช้สายตาและกล้ามเนื้อนอกเหนือจากการฝึกสมองอีกด้วย
ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็ง แรงแล้ว ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยให้คลายเครียด เมื่อสมอปลอดโปร่ง เด็กจะมีความจำที่ดีซึ่งจะช่วยในการเรียนรู้ของเขาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เรียนรู้การทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะง่ายๆ อย่างการวาดรูป การระบายสี เรื่อยไปจนถึงงานศิลปะที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างการประดิษฐ์หรือการเย็บปักถักร้อย กิจกรรมศิลปะนอกจากจะช่วยฝึกฝนสมองในการใช้กล้ามเนื้อมือและตาให้สอดประสานกันแล้ว ยังช่วยให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับงาน อีกทั้งยังสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
อาหารบำรุงสมองเด็ก
นอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้ว อาหารก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยพัฒนาสมองเด็ก โดยคุณแม่สามารถรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตั้งแต่เจ้าตัวน้อยยังอยู่ในครรภ์ด้วยซ้ำ สิ่งที่สำคัญคือ คุณพ่อและคุณแม่ควรดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละวัน และหากลูกน้อยเป็นเด็กกินยาก คุณอาจจะต้องหาวิธีปรุงอาหารที่ช่วยให้ลูกกินได้ง่ายดายมากขึ้นเช่นกัน
โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการเติบโต เพราะเป็นสารอาหารที่ช่วยพัฒนาให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย และยังช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ โดยโปรตีนจะพบมากในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วชนิดต่างๆ รวมไปถึงปลาที่อุดมด้วยโอเมก้าซึ่งช่วยพัฒนาสมองและความทรงจำอีกด้วย
วิตามินจากผักและผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามินดีที่ช่วยบำรุงกระดูก และวิตามินซีที่ช่วยสร้างเซลล์เยื่อบุต่างๆ ภายในร่างกายและสมอง วิตามินเหล่านี้สามารถหาได้จาก ผักใบเขียวอย่างผักโขมและบร็อคโคลี ผักผลไม้สีส้มอย่างแครอท และผักผลไม้สีแดงอย่างมะเขือเทศ อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรหาว ิธีปรุงผักผลไม้ให้เด็กรับประทานได้ง่าย เช่น นำไปอบกับชีส หรือนำไปปรุงเป็นอาหารโปรดของลูกก็ได้
การพัฒนาสมองของลูกน้อยนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงคุณหมั่นดูแลสารอาหารและหากิจกรรมที่มีประโยชน์ให้ลูกได้ทำเพื่อกระตุ้นการพัฒนาทักษะต่างๆ เสมอ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังควรปล่อยให้ลูกทำสิ่งที่เขาชอบ เพื่อให้เขารู้จักเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองอีกด้วย คุณมีกิจกรรมพัฒนาสมองสำหรับเด็กอย่างไรบ้าง? เขียนเเนะนำกิจรรมสนุกๆ ได้ทางด้านล่างนี้เลย